งานวิจัย เรื่องการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยโดยใช้นิทาน
ทักษะคณิตศาสตร์มีความสําาคัญยิ่งต่อการพัฒนาความคิดของมนุษย์ทําาให้มนุษย์มีความคิดสร้างสรรค์ คิดอย่างมีเหตุผล จึงมีการส่งเสริมทักษะคณิตศาสตร์ให้กับเด็กตั้งแต่ระดับปฐมวัย การวิจัยปฏิบัติการรูปแบบ วงจรลําาดับเวลาเป็นรูปแบบที่มีขั้นตอนการปฏิบัติ 8 ขั้นตอน มีหลักการสําาคัญ คือ หลังจากระบุปัญหาที่ต้องการ แก้ไขแล้วจะประเมินความต้องการจําาเป็นของกลุ่มเป้าหมายเพื่อวางแผนในการแก้ไขปัญหาตามลําาดับเวลาไปที ละวงรอบ ผู้วิจัยจึงนําามาใช้ในการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นอนุบาลศึกษาปีที่ 1 การวิจัยมีความมุ่งหมายดังนี้ เพื่อศึกษาผลการเรียนคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยโดยใช้นิทานคณิตศาสตร์ ตามกระบวนการวิจัยปฏิบัติการวงจรลําาดับเวลา กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 โรงเรียนอนุบาลวิศิษฐ์อําานวยศิลป์ อําาเภอบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ สังกัดสําานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถม ศึกษาหนองคายเขต 3 ปีการศึกษา 2553 จําานวน 35 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling Selection) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย (1) แบบประเมินทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ เด็กปฐมวัย
(2) แบบประเมินความต้องการจําาเป็นเรียนรู้ทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์เด็กปฐมวัย
(3) ชุดประเมินทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์เด็กปฐมวัย
(4) แผนการจัดประสบการณ์ จําานวน 18 แผน
(5) แบบประเมินวัดความก้าวหน้าทักษะทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย
(6) แบบสัมภาษณ์นักเรียนและ
(7) แบบบันทึกผลการใช้แผนการจัดประสบการณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย พบว่า การพัฒนาทักษะคณิตศาสตร์โดยใช้นิทานคณิตศาสตร์ตามกระบวนการวิจัยปฏิบัติการ ในวงรอบที่ 1 ทําาให้นักเรียนส่วนใหญ่มีพัฒนาการในเรื่องการนับ การรู้ค่าตัวเลขและการจับคู่ อยู่ในระดับดีถึงดี มากผลเป็นที่น่าพอใจ จากนั้นผู้วิจัยได้ทําาการพัฒนาทักษะคณิตศาสตร์ในวงรอบที่ 2 โดยพัฒนาเรื่องการเปรียบ เทียบและการเรียงลําาดับซึ่งนักเรียนส่วนใหญ่มีพัฒนาการอยู่ในระดับดีถึงดีมาก
โดยสรุป กระบวนการวิจัยปฏิบัติการวงจรลําาดับเวลาสามารถพัฒนาทักษะคณิตศาสตร์ของนักเรียน ระดับปฐมวัยได้ ซึ่งเป็นแนวทางให้ครูสามารถนําากระบวนการวิจัยปฏิบัติการรูปแบบวงจรลําาดับเวลานี้ ไปใช้ใน การเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะคณิตศาสตร์ระดับปฐมวัยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
No comments:
Post a Comment