บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 3
Saturday, August 22, 2020
Monday, August 17, 2020
คลิปการสอนวิทยาศาสตร์
คลิปการสอนวิทยาศาสตร์
วิธีจัดกิจกรรม STEM เด็กปฐมวัย "ขวดน้ำพุ"
อุปกรณ์
1.ขวดน้ำที่เจาะรู
2.กระดาษกาว
3.กรวย
4.น้ำ
5.สีผสมอาหาร
หัวใจสำคัญ
1.การสร้างขวดน้ำพุ
ให้เด็กๆนำขวดที่เจาะรูแล้วมาติดกระดาษกาวใส่สีผสมอาหารลงในน้ำ กรอกน้ำใส่ขวด ทดลองแกะกระดาษกาวออกที่ละจุด ให้เด็กๆชัดเกตการไหลของน้ำ
2.ทำอย่างไรให้น้ำพุพุ่งแรง ๆ
เปิดโอกาศให้เด็กได้สร้างสรรค์
1.เป่า
2.เขย่า
3.บีบ
จากกิจกรรมนี้เด็กจะได้แก้ปัญหาเชื่อมโยงความรู้วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ด้วยกระบวนการทางวิศวะกรรมศาสตร์ให้เกิดการเรียนรู้ใหม่เป็น STEM
ที่มาของคลิป https://www.youtube.com/watch?v=FO6nwjx_Jgc
คลิปการสอนคณิตศาสตร์
คลิปการสอนคณิตศาสตร์
เรื่อง คณิตศาสตร์แสนสนุก
ครูให้เด็กๆดูเมล็ดของถั่วเขียว แล้วให้ดูลักษณะการปลูกต้นถั่วเขียวและปริมาณของเมล็ดถั่วเขียวที่จะนำไปปลูก แล้วให้เด็กๆนับจำนวนภาชนะที่ใส่เมล็อถั่วเขียวว่าภาชนะอันไหนใส่เมล็ดถั่วเขียนได้มากที่สุดเด็กได้รู้จักปริมาณที่ใส่เมล็ดถั่วเขียวของภาชนะแต่ละชนิด
ที่มาของคลิป https://www.youtube.com/watch?v=t1KJSV4TXXs
งานวิจัย วิทยาศาสตร์
งานวิจัย คณิตศาสตร์
งานวิจัย เรื่องการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยโดยใช้นิทาน
ทักษะคณิตศาสตร์มีความสําาคัญยิ่งต่อการพัฒนาความคิดของมนุษย์ทําาให้มนุษย์มีความคิดสร้างสรรค์ คิดอย่างมีเหตุผล จึงมีการส่งเสริมทักษะคณิตศาสตร์ให้กับเด็กตั้งแต่ระดับปฐมวัย การวิจัยปฏิบัติการรูปแบบ วงจรลําาดับเวลาเป็นรูปแบบที่มีขั้นตอนการปฏิบัติ 8 ขั้นตอน มีหลักการสําาคัญ คือ หลังจากระบุปัญหาที่ต้องการ แก้ไขแล้วจะประเมินความต้องการจําาเป็นของกลุ่มเป้าหมายเพื่อวางแผนในการแก้ไขปัญหาตามลําาดับเวลาไปที ละวงรอบ ผู้วิจัยจึงนําามาใช้ในการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นอนุบาลศึกษาปีที่ 1 การวิจัยมีความมุ่งหมายดังนี้ เพื่อศึกษาผลการเรียนคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยโดยใช้นิทานคณิตศาสตร์ ตามกระบวนการวิจัยปฏิบัติการวงจรลําาดับเวลา กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 โรงเรียนอนุบาลวิศิษฐ์อําานวยศิลป์ อําาเภอบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ สังกัดสําานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถม ศึกษาหนองคายเขต 3 ปีการศึกษา 2553 จําานวน 35 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling Selection) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย (1) แบบประเมินทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ เด็กปฐมวัย
(2) แบบประเมินความต้องการจําาเป็นเรียนรู้ทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์เด็กปฐมวัย
(3) ชุดประเมินทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์เด็กปฐมวัย
(4) แผนการจัดประสบการณ์ จําานวน 18 แผน
(5) แบบประเมินวัดความก้าวหน้าทักษะทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย
(6) แบบสัมภาษณ์นักเรียนและ
(7) แบบบันทึกผลการใช้แผนการจัดประสบการณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย พบว่า การพัฒนาทักษะคณิตศาสตร์โดยใช้นิทานคณิตศาสตร์ตามกระบวนการวิจัยปฏิบัติการ ในวงรอบที่ 1 ทําาให้นักเรียนส่วนใหญ่มีพัฒนาการในเรื่องการนับ การรู้ค่าตัวเลขและการจับคู่ อยู่ในระดับดีถึงดี มากผลเป็นที่น่าพอใจ จากนั้นผู้วิจัยได้ทําาการพัฒนาทักษะคณิตศาสตร์ในวงรอบที่ 2 โดยพัฒนาเรื่องการเปรียบ เทียบและการเรียงลําาดับซึ่งนักเรียนส่วนใหญ่มีพัฒนาการอยู่ในระดับดีถึงดีมาก
โดยสรุป กระบวนการวิจัยปฏิบัติการวงจรลําาดับเวลาสามารถพัฒนาทักษะคณิตศาสตร์ของนักเรียน ระดับปฐมวัยได้ ซึ่งเป็นแนวทางให้ครูสามารถนําากระบวนการวิจัยปฏิบัติการรูปแบบวงจรลําาดับเวลานี้ ไปใช้ใน การเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะคณิตศาสตร์ระดับปฐมวัยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
Saturday, August 15, 2020
บทความเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
บทความเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
เรื่อง การทดลองทางวิทยาศาสตร์ (Science experiments)
ผู้เขียน: อาจารย์ นิติธร ปิลวาสน์ ศึกษานิเทศก์
รูปแบบการจัดกิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยจึงคำนึงถึงพัฒนาและธรรมชาติการเรียนรู้ของเด็ก โดยเฉพาะวุฒิภาวะ ความพร้อม และการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับความสามารถ ทางสมองของเด็ก เป็นสิ่งที่มีความสำคัญที่ควรนำมาพิจารณาเป็นอันดับแรก สำหรับทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์หรือทักษะกระ บวนการทางวิทยาศาสตร์ เป็นความสามารถในการปฏิบัติและฝึกฝนกระบวนการคิดในการแสวงหาความรู้ ตลอดจนการแก้ ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างคล่องแคล่วชำนาญ
ทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ (Basic Science skills) ที่ควรฝึกฝนให้เกิดกับเด็กปฐมวัย
สามารถแยกได้เป็น 6 ประเภทดังนี้
1. ทักษะการสังเกต (Observing)
2. ทักษะการวัด (Measuring)
3. ทักษะการจำแนกประเภท (Classifying)
4. ทักษะการลงความเห็น (Inferring)
5. ทักษะการพยากรณ์ (Predicting)
6. ทักษะการสื่อสาร (Communicating)
การจัดกิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
สามารถบูรณาการกิจกรรมทดลองไว้ในกิจกรรมตามตารางกิจกรรมประจำวันสำหรับเด็กปฐมวัย เช่น เสริมประสบการณ์หรือกิจกรรมในวงกลม กิจกรรมสร้างสรรค์ เนื้อหาที่นำมาทด ลองจะยึดหน่วยหรือหัวเรื่องที่เด็กเรียนรู้เป็นหลัก เช่น
การเรียนรู้ หน่วยน้ำ
ครูจัดกิจกรรมการทดลองวิธีการกรองน้ำให้สะอาด เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้มโนทัศน์เกี่ยวกับเรื่องวิธีการทำให้น้ำสะอาด จากการทดลองวิธีการกรองน้ำ ครูอาจจัดวัสดุอุปกรณ์ต่างๆเพื่อให้เด็กได้เลือกและค้นหาวิธีการที่เหมาะสมในการกรองน้ำ
การเรียนรู้ หน่วยผลไม้
ครูอาจจัดกิจกรรมทดลองเพื่อพิสูจน์เกี่ยวกับส่วนประกอบของผลไม้ว่า ผลไม้แต่ละชนิดมีส่วน ประกอบเหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไร โดยครูแบ่งกลุ่มเพื่อให้เด็กทดลองเป็นกลุ่ม และมีการเปรียบเทียบผลการพิสูจน์ของแต่ละกลุ่มได้
พ่อแม่ ผู้ปกครองจะจัดกิจกรรมให้ลูกทดลองทางวิทยาศาสตร์อย่างไร?
ขั้นที่ 1 พ่อแม่ควรสังเกตความสนใจของลูก ว่าลูกมีความสนใจสิ่งแวดล้อมรอบตัวในเรื่องใดบ้าง ซึ่งสามารถพบได้จากการคำพูด การสนทนาในชีวิตประจำวันของลูกกับพ่อแม่
ขั้นที่ 2 สร้างเสริมประสบการณ์ในเรื่องที่ลูกสนใจ โดยบูรณาการทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ในเรื่องนั้นๆ
ขั้นที่ 3 พ่อแม่ควรสรุปความรู้หรือความคิดรวบยอด หลังจากที่เด็กได้ทดลองหรือสืบค้นข้อมูลเพียงพอแล้ว เช่น การอธิบายให้ลูกเข้าใจเกี่ยวกับการเจริญเติบโตของพืชจากองค์ประกอบของการดูแลที่แตกต่างกัน
ประโยชน์ของการทดลอง
- ส่งเสริมให้เด็กได้พัฒนาความสามารถในการค้นคว้า สืบสอบสิ่งต่างๆ
- ส่งเสริมให้เด็กได้รับการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริง เช่น ทักษะการสังเกต ทักษะการจำแนกประเภท ทักษะการสื่อสาร ทักษะการลงความเห็น ทักษะการวัด
- ช่วยตอบสนองต่อธรรมชาติการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย โดยเฉพาะความอยากรู้อยากเห็นของเด็ก เจตคติต่อวิทยา ศาสตร์ และการเรียนรู้ด้วยการค้นพบ
- ช่วยให้เด็กเข้าใจวิธีการทำงานอย่างนักวิทยาศาสตร์ที่มีความสัมพันธ์กับชีวิตประจำวัน และการสืบค้นของตัวเด็ก
- ส่งเสริมให้เด็กมีความรู้เกี่ยวกับตนเอง และสิ่งต่างๆรอบตัวมากขึ้น
- ส่งเสริมให้เด็กมีทักษะในการแก้ปัญหา
- ส่งเสริมให้เด็กพัฒนาความคิดอย่างมีเหตุผล อย่างมีระบบตามวิธีการทางวิทยาศาสตร์
- ส่งเสริมให้เด็กมีความรู้เกี่ยวกับตนเอง และสิ่งต่างๆรอบตัวมากขึ้น
- ส่งเสริมให้เด็กมีความรับผิดชอบในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
- ส่งเสริมให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ เป็นการเตรียมความพร้อมในการเรียนวิทยาศาสตร์ในระดับประถมศึกษา
- ส่งเสริมให้เด็กเป็นคนกล้าพูด กล้าทำ กล้าแสดงความคิดเห็น ส่งเสริมให้เด็กเป็นคนที่มีจิตใจมั่นคง ไม่เชื่อต่อคำบอกเล่าของคนอื่นง่ายๆ จนกว่าจะพิสูจน์ให้เห็นจริง
- ส่งเสริมให้เด็กเป็นคนมีจิตใจกว้างขวาง ยอมรับความคิดเห็นของคนอื่น
- ส่งเสริมให้เด็กสามารถทำงานเป็นกลุ่มได้ รู้จักการเป็นผู้นำ ผู้ตาม รู้จักรอคอย แบ่งปันสิ่งของเครื่องใช้ ตลอดจนการช่วยเหลือทำงานร่วมกัน
- ส่งเสริมให้เด็กลดความกลัวต่อสิ่งต่างๆ เช่น กลัวความมืด กลัวเสียงฟ้าร้อง เป็นต้น
- ส่งเสริมให้เด็กมีทักษะในการใช้อวัยวะต่างๆของร่างกายในการทำงาน อีกทั้งทักษะในการใช้เครื่องมือในการทำงานต่างๆอีกด้วย